การออกบูธที่นิทรรศการ หรืองานแฟร์ต่างๆ สามารถตกแต่งเพื่อให้บูธของแบรนด์มีความโดดเด่น และมีความน่าสนใจขึ้นมาได้ไม่ยาก และได้ผลด้วย หรืออาจจะเตรียมสินค้าของแถมพรีเมียมไว้แจก ก็เป็นไอเดียที่ดีเช่นกัน ลองไปดูกันว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญในแง่ไหนบ้าง
เช็กลิสต์! 7 ขั้นตอนการออกบูธ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
เมื่อเข้าใจว่าการออกบูธสำคัญอย่างไร และมีการวางแผนอย่างไร ต่อไปคือการเตรียมความพร้อมสำหรับการออกบูธ ซึ่งจะมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
1. จัดการค่าใช้จ่ายในการออกบูธ
การออกบูธในแต่ละครั้ง ย่อมมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าสถานที่ ค่าอุปกรณ์ตกแต่งบูธ ค่าสินค้าของแถมพรีเมี่ยมที่ต้องเตรียมไว้ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องใช้เงินมาลงทุนในส่วนนี้อยู่ทุกครั้งที่มีการออกบูธ ไม่เพียงเฉพาะเงินทุนเท่านั้น เพราะผู้ประกอบการต้องมีเงินสำรอง และเงินทอนสำหรับลูกค้าเตรียมพร้อมไว้ด้วย
2. เตรียมสินค้ามาขายให้เพียงพอ
พระเอกของการออกบูธก็คือสินค้าที่จะนำไปขาย ต้องมั่นใจว่าสินค้าที่นำออกไปขายนั้นจะดึงความสนใจของลูกค้าได้ และเมื่อสินค้าขายได้ดีแล้ว ควรมีสินค้าสต็อกไว้ให้พอจนจบงาน แต่เมื่อไรที่เกิดปัญหาสินค้าไม่พอขึ้นมา ก็ต้องวางแผนเตรียมตัวแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ เช่น การให้ลูกค้าพรีออเดอร์ และทางร้านจะทำการจัดส่งให้ในภายหลัง หรือจะให้ลูกค้ามารับเองที่บูธในวันถัดไปก็ได้ เพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่ และเพื่อสร้างความประทับใจต่อแบรนด์มากขึ้น
3. อุปกรณ์และของตกแต่งบูธ
อุปกรณ์ที่สำคัญ และของตกแต่งต่างๆ ที่ทำให้บูธเป็นที่น่าสนใจ และน่าจดจำ มีดังนี้
4. บูธต้องดึงดูดลูกค้า
การสร้างบูธและการออกแบบบูธให้ดึงดูดลูกค้า ต้องมีความโดดเด่น สะดุดตา และน่าสนใจ เป็นสิ่งสำคัญในการเรียกลูกค้าเข้าบูธ เพราะยิ่งถ้าบูธน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าเข้ามามาก ก็ย่อมมีโอกาสปิดการขายได้มา ดังนั้นการทำบูธให้โดดเด่น ละมีความแตกต่างจึงดึงดูดลูกค้าให้มาก เป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดสำหรับเจ้าของธุรกิจที่จะมาพิชิตกลุ่มลูกค้าให้สนใจสินค้ามากขึ้น ซึ่งหลักการตั้งโปรโมชั่นทำไม่ยาก แต่ก็ต้องคิดอย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อคำนึงถึงรายได้ที่ไม่ถึงขั้นขาดทุน อาจจะได้กำไรไม่มาก แต่อาจมาสร้างกำไรในภายหลังเมื่อได้ลูกค้ามาแล้ว โดยอาจใช้รูปแบบโปรโมชันในการซื้อสินค้า 1 แถม 1 หรือโปรโมชันที่มีสินค้าของแถมพรีเมียม เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงความตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีๆ ซึ่งสินค้าของแถมพรีเมี่ยมอาจจะเป็น หมวก ถุงผ้า หรือร่ม เป็นต้น โดยสามารถสั่งทำได้ที่ GIFTWISE โดยสามารถเลือกแบบ เลือกลายได้เอง ยิ่งถ้าเป็นการสกรีนลายโลโก้ของแบรนด์ ก็จะยิ่งช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำมากขึ้นไปอีก
5. ทีมขายที่มีความเป็นมืออาชีพ
ก่อนการออกบูธแต่ละครั้ง ควรมีการประชุมทีมทุกคนให้ชัดเจนว่า จุดประสงค์การออกบูธครั้งนี้เพื่ออะไร มีโปรโมชันอย่างไร ต้องการกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน ตั้งเป้าหมายยอดในการขาย และปิดการขายให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีได้อย่างไร และถ้าหากเจอปัญหาก็ต้องมีสติในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าร่วมกันให้ดีด้วย เพราะฉะนั้น การเลือกทีมขายที่เป็นมืออาชีพจึงสำคัญ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้ามากขึ้นนั่นเอง
6. เตรียมนามบัตรของแบรนด์
การออกงานอิเวนต์ในแต่ละครั้ง จำเป็นต้องโฆษณาแบรนด์ให้เป็นที่จดจำให้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จะสร้างการจดจำในระยะยาว และเพื่อให้ลูกค้าติดต่อซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรืออาจร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย นั่นคือการเตรียมนามบัตรของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าได้สามารถติดต่อภายหลังได้สะดวก อีกทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย
7. เตรียมช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
การอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าให้มากที่สุด จะช่วยให้ลูกค้าประทับใจกับการบริการมากขึ้น ซึ่งวิธีการชำระเงินที่หลากหลายก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่สามารถเพิ่มยอดขายได้ เพราะเมื่อทุกอย่างดูสะดวก รวดเร็ว การตัดสินใจซื้อก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
สรุป
การออกบูธมีจุดประสงค์หลักๆ คือเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทำให้คนได้รู้จักแบรนด์ แบรนด์เกิดความน่าเชื่อถือ และอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์มากที่สุด โดยการออกบูธต้องคำนึงถึงความพร้อมของทีมที่ต้องรู้จุดประสงค์สำคัญในการออกบูธ เน้นการปิดการขายตามเป้าที่วางไว้ โดยมีปัจจัยที่ช่วยเสริมให้บูธมีความน่าสนใจ และอยากจะซื้อสินค้า อย่างการตกแต่งบูธให้มีความน่าสนใจ มีกิจกรรมให้เล่น รวมทั้งการมีสินค้าของแถมพรีเมียมเพื่อสร้างความประทับใจ นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดของการออกบูธคือการทำตามแผนที่เตรียมไว้ และทีมงานมีความพร้อมกันทุกคน เพื่อที่ในวันงานจะได้ไม่เกิดปัญหา และถ้าหากเกิดปัญหา ทีมงานก็จะรู้วิธีการรับมือได้ในทันที